top of page

★ #8ปี แห่งการสร้างพหุเวอร์ชั่นในตำนานเทพญี่ปุ่น



นี่ข้าเอง สุคุนะบิโคะนะโนะมิโคะโตะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ วันนี้ข้าแอบเอาเอกสารลับของราชสำนักยามาโตะมาเปิดโปงให้ทุกคนดู ตอนแรกข้าก็นึกว่าจักวาลของทวยเทพอย่างข้าจะมีแค่ใน “โคะจิกิ”(古事記) เสียอีก ที่ไหนได้มนุษย์พวกนี้แอบวางแผนอ้างชื่อทวยเทพต่าง ๆ สร้างตำนานใหม่ ๆ ในหลาย ๆ เวอร์ชั่น แล้วเอามาใส่ในหนังสือ “นิฮนโฉะคิ”(日本書紀)ระยะเวลาห่างกันเพียง 8 ปี มนุษย์พวกนี้คิดการใหญ่หวังสร้าง​​ประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง(正史)เพื่อเอาไปเล่าต่อ ๆ กันให้ต่างชาติยอมรับตัวตนอย่างนั้นหรอ หึ มนุษย์อย่างพวกเจ้านั้นช่างทะเยอทะยานเสียเหลือเกิน แต่ก็ยังตื้นเขินนัก! ข้าจะเปิดโปงแผนการของมนุษย์พวกนี้เอง! ไปดูเอกสารลับที่ว่ากันเลย

.

เอกสารชิ้นที่ 1 : โคะจิกิ

.

ความเดิมตอนที่แล้ว…

(สามารถย้อนอ่านได้จากลิ้งค์ต่อไปนี้ : https://www.facebook.com/Miniatureof1MFables/photos/157743193354712)

.

//flash back กลับไปตอนที่เทพอิซานามิกำลังคลอดเทพแห่งไฟ ฮิโนะยะกิฮะยะ

“ท่านนนนนพี่ ข้าแสบเหลือเกิน ช่วยด้วย ช่องคลอดของข้ามีไฟลุกท่วมไปหมดแล้ววว ช่วยด้วยยยย อร๊าาาาาาา”

“ทำใจดี ๆ ไว้อิซานิมิที่รักของข้า”

.

ข้าก็เข้าใจว่าธาตุไฟมันคือความร้อนแรง แผดเผาทุกสิ่ง แต่ข้าก็ไม่คิดว่าจะเผาเมียที่รักของข้าไปด้วย เมียข้าก็สู่ขิตลงไปอยู่โยะมิโนะคุนิแล้ว คิดถึงวันวานเก่า ๆ ที่เคยเดินวนรอบเสาอะเมะโนะมิฮะชิระ(天の御柱)มาด้วยกัน ก็ความคิดถึงมันเกินต้านนิ ลองลงไปตามอิซินะมิกลับมาดีกว่า เผื่อเราจะได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง

.

แต่เมียข้านอนเละกลายเป็นศพเน่าไปเสียแล้ว แถมกลายเป็นผีบ้าส่งวิญญาณตามติดมาหาข้าจนต้องเอาลูกท้อปาใส่หน้าไปทีสองทีถึงจะหนีออกมาได้

----------------------------------------------------

.

(ภาพตัดกลับมาที่ปัจจุบัน)

.

ก็นั่นแหล่ะทุกคน ข้า “อิซะนะงิ” ก็เลยต้องอยู่ตัวคนเดียว ไปตามเมียกลับมาจากยมโลกก็ไม่สำเร็จ เห้ออออออ เอาเถอะยังไงเสียชีวิตก็ต้องเดินต่อ ทำภารกิจสร้างแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นให้สำเร็จ ได้ยินมาว่าที่ทสึคุชิโนะฮิมุคะโนะทะจิบานะ(筑紫の日向の橘) มีทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกตาที่ชื่อโอะโดะโนะอะวิคิฮะระ(小門のあはき原)(ปล.จังหวัดมิยะซะกิในปัจจุบัน) อยู่นี่หน่า เนื้อตัวสกปรกแบบนี้ก่อนอื่นเลยขอแวะอาบน้ำที่นั่นซักหน่อยละกัน

.

“เดชะบุญ แม้แต่เสื้อผ้าที่ถอดออกมาก็กลับกลายเกิดเป็นเทพมากมาย เอาเถอะ ลงน้ำล้างหน่อยละกัน”

.

เทพมากมายเกิดขึ้นไม่ขาดสายเพียงแค่ล้างตัว

.

“จริงสิ ภาพศพเน่า ๆ ของอิซะนะมิยังติดตาอยู่เลย ขอล้างตาซักหน่อยดีกว่า เริ่มจากตาซ้ายก่อนละกัน ตามด้วยตาขวา กลิ่นเน่าก็ยังติดจมูกไม่หายเหมือนกัน เอาน้ำล้างจมูกซะหน่อย”

.

ทันทีที่อิซะนะงิเอาน้ำล้างตาซ้ายเทพอะมะเทระสุ(天照大御神)ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และเมื่อล้างตาขวาเทพทสึคุโยะมิ(月読命)ก็ได้เกิดขึ้น และหลังจากล้างจมูกเทพทะเคะฮะยะซุซะโนะโอะ(健速須佐之男命)ก็ถือกำเนิดขึ้นตามลำดับ

.

“ดีใจจริง ๆ ที่ได้ให้กำเนิดพวกเจ้าขึ้นมา ต่อจากนี้ไปข้าจะเรียกพวกเจ้าว่า “สามยอดกุมาร” (三貴子)เอาล่ะข้าขอมอบสร้อยคอให้กับอะมะเทระสุ และขอสั่งให้เจ้าไปปกครองดินแดนสวรรค์ทะคะมะโนะฮะระ(高天原)ส่วนทสึคุโยะมิ เจ้าจงไปปกครองดินแดนแห่งรัตติกาลโยะรุโนะโอะสุคุนิ(夜の食国)ส่วนซุซะโนะโอะ เจ้าจงไปปกครองดินแดนแห่งท้องทะเลอุนะฮะระ(海原)ไป ๆ แยกย้ายกันไปได้แล้วทุกคน”

.

“เดี๋ยวก่อน ซุซะโนะโอะ ทำไมมัวแต่ร้องไห้อยู่อย่างนี้ ไหนเรื่องมันเป็นยังไงเล่าให้ข้าฟังหน่อย”

“ข้าอยากไปหาท่านแม่...ข้าก็เลยนั่งร้องไห้อยู่แบบนี้”(僕は、妣*が国の根之堅洲国に罷らむと欲ふが故に、哭くとまをしき。)

“อะไรของแก ไอลูกไม่รักดี เทพอย่างแกน่ะนะไม่สมควรที่จะอยู่บนแผ่นดินนี้หรอกนะ ไสหัวออกไปเลยนะ!”

.

เอกสารชิ้นที่ 2 : นิฮนโฉะคิ วรรคที่ 5

...อิซะนะงิและอิซะนะมิให้กำเนิดเกาะโอยะชิมะคุนิและเทพต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทพแห่งภูเขา ทุ่งหญ้า สายน้ำ ต่าง ๆ

.

“ท่านพี่ พวกเราให้กำเนิดเทพออกมามากมายขนาดนี้ แต่เรายังไม่ได้ให้กำเนิดเทพองค์ใดเลยที่เหมาะสมที่จะปกครองแผ่นดินใต้ท้องฟ้านี้”

.

เมื่อพูดจบทั้งสองก็ให้กำเนิด “เทพีแห่งดวงอาทิตย์”(日神)มีชื่อว่าโอฮิรุเมะโนะมุจิ(大日孁貴)หรือในอีกตำนานเขียนว่า “มหาเทพอะมะเทระสุ”(一書に云はく、天照大神といふ)เทพองค์นี้ส่องแสงเรืองรองเจิดจ้าไปทั่วทุกสารทิศ

.

“ท่านพี่ ตั้งแต่พวกเราให้กำเนิดเทพมา ยังไม่มีเทพองค์ใดเลยที่มีพลังมากเท่านี้ เราไม่ควรให้ลูกของเราต้องอยู่ที่นี่นาน ข้าคิดว่าควรจะส่งลูกองค์นี้ไปปกครองดินแดนสวรรค์นะ”

.

หลังจากมอบมายภารกิจให้อะมะเทะระสุไปปกครองดินแดนสวรรค์ อิซะนะงิและอิซะนะมิก็ได้ให้กำเนิดเทพแห่งพระจันทร์(月神) หรือในอีกหลาย ๆ ตำนานเขียนว่า ทสึคุโยะมิโนะมิโคะโตะ(月弓尊・月夜見尊・月読尊)

.

“ลูกของเราองค์นี้ส่องแสงเรืองรองสวยงามไม่แพ้ลูกคนก่อนเลย งั้นเราส่งทสึคุโยะมิให้ไปปกครองเคียงข้างกับเทพพระอาทิตย์ละกัน”

.

หลังจากนั้นเทพทั้งสองได้ให้กำเนิดฮิรุโคะ(蛭子)

.

“ลูกเราองค์นี้ช่างน่าสงสาร เกิดมาได้สามปีก็ยังตั้งไข่เดินไม่ได้ คงต้องเอาไปลอยน้ำทิ้งเสีย”

.

หลังจากนั้นเทพทั้งสองก็ได้ให้กำเนิดเทพซุซะโนะโอ(素盞嗚尊)หรือในอีกหลาย ๆ ตำนานเขียนว่า “คะมุซุซะโนะโอะโนะมิโคะโตะ”(神素盞嗚尊)หรือ “ฮะยะซุซะโนะโอะโนะมิโคะโตะ”(速素盞嗚尊)

.

“ลูกองค์นี้ช่างแข็งแกร่ง กำยำเหลือเกิน แต่ทำไมเอาแต่ร้องไห้เช่นนี้ ดูสิแค่ร้องไห้ผู้คน ต้นไม้ใบหญ้าก็ล้มตายกันหมด ถ้าให้อยู่บนแผ่นดินใต้ฟ้านี้เห็นทีแบบนี้จะไม่ได้ละ คงต้องเนรเทศให้ลงไปอยู่โลกใต้พิภพ(根国)”

.

หลังจากนั้นซุซะโนะโอะก็ถูกเนรเทศออกกไปอยู่โลกใต้พิภพ

.......................................


เอกสารชิ้นที่ 3 : นิฮนโฉะคิ วรรคที่ 5.1

“ข้าอยากให้กำเนิดลูกให้โตมาเป็นเทพผู้ปกครองแผ่นดินนี้” อิซะนะมิกล่าว

.

ทันทีที่อิซะนะมิหยิบคันฉ่องด้วยมือซ้าย เทพโอฮิรุเมะโนะมุจิ(大日孁貴)ก็ถือกำเนิดขึ้น และเมื่อหยิบคันฉ่องด้วยมือขวาเทพทสึคุโยะมิโนะมิโคะโตะ(月弓尊)ก็ถือกำเนิดขึ้น และเพียงแค่หมุนคอเปลี่ยนองศา เทพซุซะโนะโอ(素盞嗚尊)ก็เกิดขึ้นตามออกมา

.

ทั้งเทพโอฮิรุเมะโนะมุจิและเทพทสึคุโยะมิโนะมิโคะโตะต่างมีแสงเรืองรองอยู่รอบกายทั้งสองจึงถูกส่งให้ไปปกครองดินแดนทั้งท้องฟ้าและผืนดิน ส่วนเทพซุซะโนะโอะที่มักสร้างแต่ความเดือดร้อนวุ่นวายจึงถูกสั่งให้ไปปกครองโลกใต้พิภพ

....................

จากเอกสารทั้ง 3 ชิ้นที่หยิบยกมา ได้แก่ ตำนานจากหนังสือโคะจิกิ และตำนานจากหนังสือนิฮนโฉะคิ จะเห็นว่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นตำนานเกี่ยวกับการให้กำเนิดสามยอดกุมาร(三貴子)ด้วยกันทั้งสิ้น จะต่างกันก็เพียงตัวละคร ลำดับเหตุการณ์ และวิธีการให้กำเนิดเทพเท่านั้น

.

ทั้งนี้ เป็นที่น่าแปลกใจอย่างหนึ่งคือ ในหนังสือนิฮนโฉะคิมีตำนานเรื่องเล่าเดียวกันแต่มีรายละเอียดปลีกย่อยในเนื้อเรื่องต่างกันมาวางเรียงต่อกัน ผู้แต่งทำแบบนั้นเพื่ออะไร ? ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจและที่มาที่ไปของหนังสือนิฮนโฉะคิกันก่อนเลย

.

นิฮนโฉะคิ(日本書紀)เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีทั้งหมด 31 ม้วน เนื้อเรื่องหลักแบ่งออกเป็น​ “วรรค” ต่าง ๆ โดยในแต่ละวรรคยังประกอบไปด้วย “เนื้อหารอง” ของตำนานเดียวกันหลากหลาย “สำนวน” เริ่มตั้งแต่กำเนิดจักรวาล เรื่อยไปจนถึงเรื่องของจักรพรรดิองค์แรก และยาวต่อไปอีกจนถึงจักรพรรดิจิโท (จักรพรรดิองค์ที่ 41) บันทึกประวัติศาสตร์เล่มนี้ถูกเรียบเรียงเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 720 ซึ่งทิ้งระยะเวลาจากหนังสือโคะจิคิ (ค.ศ.712) เพียง #8ปี เท่านั้น

.

นักวิชาการปัจจุบันเชื่อว่าสิ่งที่ราชสำนักยามาโตะคาดหวังจากการเรียบเรียงหนังสือประวัติศาสตร์เล่มนี้คือ นอกจากจะสร้างความชอบธรรมในการปกครองของตนโดยการเล่าที่มาที่ไปขององค์จักรพรรดิผ่านตำนานเทพเหมือนกับโคะจิกิแล้ว ยังเป็นการสร้าง “หน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง”(正史)ซึ่งสอดคล้องกับความพยายามทำให้ประเทศรอบข้าง (หมายถึงกลุ่มประเทศที่ใช้อักษรคันจิ) ยอมรับประวัติศาสตร์ที่ตนเขียนขึ้น

.

ความพยายามทำให้ต่างชาติยอมรับประวัติศาสตร์ของตนนั้นได้ถูกสะท้อนออกมาผ่านรูปแบบการเขียนที่เรียกว่า จุนคัมบัน(純漢文)กล่าวคือเป็นรูปแบบการเขียนโดยใช้ไวยากรณ์ภาษาจีนโบราณทั้งหมด และรูปแบบประโยคหรือชุดคำศัพท์ที่ถูกเลือกมาเขียนนั้นเมื่อสืบค้นไปแล้วจะพบว่าได้รับอิทธิพลมาจากตำราจีนโบราณทั้งสิ้น เช่น ตำราเอะนันจิ(淮南子、Huáinánzǐ)และ ตำราซันโกะเระคิคิ(三五暦紀) ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจและรับรู้ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่งแตกต่างจากโคะจิกิที่เลือกใช้รูปแบบการเขียนที่เรียกว่า เฮ็นไตคัมบุน(変体漢文)เพื่อเป็นการเก็บรักษาและสืบทอดคำในภาษาญี่ปุ่น และรูปแบบประโยคที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาด้วยตัวอักษรคันจิได้

.

ลักษณะเด่นของนิฮนโฉะคิคือการใส่กลุ่มเรื่องเล่าพหุเวอร์ชั่นเอาไว้หลังเนื้อหาหลัก ซึ่งจะเรียกสิ่งนี้ว่า “อิทโฉะ”(一書)หรือพูดอีกอย่างนึงก็คือ อิทโฉะ จะทำหน้าที่เหมือนเป็นเนื้อเรื่องรอง เสมือนเนื้อเรื่องในอีกจักวาลคู่ขนานซึ่งจะล้อไปกับเนื้อเรื่องหลักก็ว่าได้

.

★นิฮนโฉะคิต้องอ่านอย่างไร ?

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเรื่องเล่าหนึ่งเรื่องต้องมีหลายเวอร์ชั่น และในเมื่อมีหลายเวอร์ชั่นเรื่องราวต่าง ๆ จะเชื่อมกันอย่างไร และนิฮนโฉะคิจะต้องอ่านอย่างไร ? สามารถสรุปได้ดังนี้

.

1. การอ่านนิฮนโฉะคิต้องอ่านเนื้อเรื่องหลักต่อกันไปเรื่อย ๆ โดยยังต้องอ่านเนื้อหารองที่เป็นพหุเวอร์ชั่นของเนื้อหาหลักไปด้วย

2. ดังนั้นการอ่านอิทโฉะ(一書)จึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะเนื้อเรื่องในพหุเวอร์ชั่นนั้นทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องหลัก

3. ในขณะเดียวกันเนื้อเรื่องในอิทโฉะต่าง ๆ มีความย้อนแย้งกับเนื้อหาหลัก

.

การมีอยู่ของอิทโฉะของตำนานต่าง ๆ (อย่างในบทความนี้คือตำนานเรื่องเล่าการเกิด “สามยอดกุมาร”) ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดหนังสือโคะจิกิและนิฮนโฉะคิ ราชสำนักยามาโตะได้มีเอกสารบันทึกเรื่องเล่าเกี่ยวกับการกำเนิดเทพทั้งสามไว้อยู่แล้วในหลาย ๆ สำนวน และเมื่อเกิดโปรเจคการเขียนหนังสือประวัติศาสตร์อย่าง โคะจิกิและนิฮนโฉะกิขึ้น จึงเกิดการ “คัดเลือก” และ​ “ตัดแต่ง” เรื่องเล่าในสำนวนต่าง ๆ รวมกับตำนานอื่น ๆ เพื่อ “สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของเรื่องเล่า” (統一化)โดยเรียบเรียงเรื่องเล่าทั้งหมดมีจุดประสงค์คือ “สร้างความชอบธรรมในการปกครอง” ให้กับตัวราชสำนักมากที่สุด

.

★บาดแผลจากการตัดแปะ

จากเนื้อเรื่องตอนกำเนิดสามยอดกุมารในโคะจิกิ จะพบว่าผู้ให้กำเนิดเทพทั้งสามองค์นั้นคืออิซะนะงิแต่เพียงผู้เดียว (ผ่านการล้างตัว) อาจกล่าวได้ว่าเทพทั้งสามนั้นเกิดขึ้นมาโดยที่ “ไม่มีแม่” (มิโซะกิ: 禊)แต่หลังจากอิซะนะงิได้ทำการมอบภารกิจให้ลูกตัว ๆ ของตัวเองไปปกครองตามพื้นที่ต่าง ๆ กลับมีเพียงแค่เทพซุซะโนะโอะเท่านั้นที่เอาแต่ร้องไห้แล้วบอกว่า “อยากไปดินแดนที่แม่อยู่” (僕は、妣*が国の根之堅洲国に罷らむと欲ふが故に、哭く)とまをしき。)

.

ซุซะโนะโอะเกิดมาจากอิซะนะงิโดยที่ไม่มีแม่ แต่กลับพูดว่าอยากไปเจอแม่ พอมาดูการเขียนก็จะเห็นว่ามีการใช้คันจิคำว่า 「妣」 ซึ่งคันจิตัวนี้มีความหมายว่า “แม่(ที่ตายไปแล้ว)” จากตรงนี้ก็พอจะทำให้ทำความเข้าใจได้ว่าแม่ที่ซุซะโนะโอะพูดถึงนั้นอาจจะหมายถึงเทพอิซะนะมิที่สู่ขิตจากการโดนเทพแห่งไฟเผาช่องคลอดไปแล้ว เรื่องแบบนี้จะสามารถทำความเข้าใจได้อย่างไรถ้าเราอ่านเพียงแค่โคะจิกิ

.

แต่เมื่อลองไปอ่านนิฮนโฉะคิวรรคที่ 5 (อ้างอิงเอกสารฉบับที่ 2 และ 3) ควบคู่ไปด้วย เราจะพบทั้งเรื่องเล่าที่ว่าสามยอดกุมารเกิดจากทั้งอิซะนะงิและอิซะนิมิ และเรื่องเล่าที่เทพทั้งสามองค์เกิดมาจากเทพอิซะนะมิเพียงองค์เดียว ดังนั้นจึงอาจสันนิษฐานได้ว่าก่อนที่โคะจิกิและนิฮนโฉะคิจะถูกเรียบเรียงขึ้นมา อาจมีเอกสารที่เล่าเรื่องกำเนิดสามยอดกุมารอยู่แล้วหลายสำนวน แล้วจึงถูกนำมาเรียบเรียงใหม่อีกครั้งดังที่ได้กล่าวไป

.

สุดท้ายนี้ หากเราเลือกอ่านตำนานเพียงเวอร์ชั่นเดียวไม่ว่าจากโคะจิกิหรือจากนิฮนโฉะคิ เราจะพบบาดแผลที่เกิดจากการตัดแปะตำนานมากมาย จนดูเหมือนว่าเนื้อเรื่องเหล่านั้นดูขาดตอน ยากที่จะสามารถเข้าใจได้ แต่สิ่งที่จะทำให้เข้าใจบริบทของตำนานได้ นั่นก็คือ การพึ่งพาเนื้อหาจากสำนวนต่าง ๆ (ในไทม์ไลน์รอง) ซึ่งเนื้อหาใน #พหุจักรวาล เหล่านี้จะคอยให้ข้อมูลเสริมต่าง ๆ จนผู้อ่านสามรถเข้าใจบริบทโดยรวมของตำนานเทพที่อยู่ในไทม์ไลน์หลักได้ คล้ายกับการดูหนังในจักวาล #มาร์เวล แล้วดูซีรี่ส์ใน #Disney+ เพื่อทำความเข้าใจไทม์ไลน์ของเรื่องราวและที่มาของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในจักวาลมาร์เวลทั้งหมดนั่นแหล่ะ

.

----- แอดมินสุคุนะบิโคะนะโนะคะมิ

.

รายการอ้างอิง

1. 山口佳紀・神野志隆光(1997)『新編日本古典文学全集1 古事記』小学館.

2. 小島憲之・直木孝次郎、他著(1994)『新編日本古典文学集2 日本書紀①』小学館.

3. 松本直樹(2016)「神話で読みとく古代日本―古事記・日本書紀・風土記」ちくま新書.





DON'T MISS THE FUN.

Thanks for submitting!

FOLLOW ME ELSEWHERE

  • Facebook
  • Instagram

SHOP MY LOOK

No tags yet.

POST ARCHIVE

bottom of page